Posts Tagged ‘เสื้อเด็ก’
เตรียมหนู…มีน้องน้อย
Posted ตุลาคม 10, 2011
on:ถ้าปล่อยให้หนูเป็นลูกคนเดียวมาเป็นปี แล้วอยู่ๆแม่ก็อุ้มเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ หน้าตาแปลกๆ แถมร้องไห้เสียงดังลั่นเข้ามาในบ้านพร้อมประโยคสั้นๆ(แต่ไม่ยักเข้าใจ)ว่า “นี่ไงจ๊ะ น้องของหนู” รับประกันได้ว่า หนูไม่มีวันยอมเด็ดขาด แล้วคราวนี้แม่จะรู้ว่า อาการหัวปั่นเมื่อหนูป่วนมันเป็นยังไง ฮึ่ม!
ก่อน อื่นเลยคุณแม่คงต้องทำใจว่า การท้องในครั้งนี้คุณแม่จะมัวมากังวลกับความเปลี่ยนแปลงของตัวเองเพียงเท่า นั้นไม่พอค่ะ เพราะการตั้งครรภ์ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของคุณกับลูกในท้องเท่านั้น ยังมีหนูน้อยอีกคนหนึ่งที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของแม่ และยังต้องการเวลาสำหรับตัวแกที่แม่ควรมีให้อยู่เหมือนเดิม
ลูก ควรจะได้รับรู้เรื่องราวของน้องไปพร้อมๆกับผู้อื่นด้วย และในแต่ละเดือนที่ผ่านไป อย่าลืมสะกิดลูกเข้ามามีส่วนร่วมกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยนะ เช่น เมื่อรูปร่างแม่เริ่มเปลี่ยนแปลง ลูกอาจฉงนสนเท่ห์ว่าน้องทำอะไรแม่ถึงเป็นแบบนี้ แม่ก็คงต้องอธิบายว่าน้องอยู่ในนี้ หรือเวลาน้องดิ้นก็คว้ามือน้อยๆของลูกมาวางที่ท้องในตำแหน่งที่น้องดิ้น นอกจากนั้นหากมีเวลาแม่กับลูกน่าจะมาจับเข่าคุยกันสักหน่อยว่า หลังจากน้องเกิดมาแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง เช่น น้องจะร้องไห้บ่อย แม่ต้องแบ่งนมให้น้องกิน ต้องอุ้มน้อง ฯลฯ อย่าลืมย้ำอย่างหนักแน่นว่าน้องจะไม่ใช่คนที่มาแย่งความรักที่พ่อแม่มีต่อ ลูกไป แต่น้องมาเพื่อได้รับความรักจากลูก และต้องการการดูแลเอาใจใส่ช่วยเหลือจากลูกเช่นกัน
เมื่อถึง “วันนั้น”
อย่า ลืมพาหนูไปเยี่ยมแม่กับน้องด้วย เพราะภาพที่เห็นทำให้หนูเข้าใจว่าที่แม่หายหน้าไปวันหรือ 2 วันก่อนหน้านี้ แม่ไปไหน! ทำอะไร! และได้เห็นว่าแม่สุขสบายดีแถมมีน้องน่ารักให้หนูอีก 1 คน
“กลับมาบ้านซะที”
แม้ ว่าลูกจะทำท่าเข้าอกเข้าใจพ่อกับแม่และน้องใหม่เป็นอย่างดี แต่เมื่อกลับมาบ้าน ได้เห็นแม่ทะนุถนอมน้อง แอะนึงก็โอ๋ แอะนึงก็อุ้ม คุณแม่ก็อาจจะเห็นอาการวีนเล็กๆจากลูก เช่น อาจงอแงทำตัวเหมือนเด็กเล็กๆ ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ใช้ความอดทนสักนิด พยายามไม่ทำให้ลูกรู้สึกว่าคุณเปลี่ยนไป แกก็จะรู้สึกอบอุ่นใจ มั่นใจ และเข้าใจว่าที่แท้พ่อแม่ก็ยังรักแกเหมือนเดิมแต่อาจแสดงออกแตกต่างกับน้อง ก็เท่านั้นเอง
แต่วิธีที่น่า จะช่วยป้องกันหรือลดอาการที่ว่านี้ลงได้ก็คือ จากโรงพยาบาลมาถึงบ้าน คุณแม่น่าจะไหว้วานให้คุณพ่อหรือคนใกล้ชิดเป็นคนอุ้มลูก(คนเล็ก)แทน เพื่อแขนสองข้างของคุณแม่จะได้โอบกอดเจ้าตัวโตได้เต็มไม้เต็มมือ(และเป็นการ ช่วยให้คุณแม่สบายขึ้นหน่อยเพราะแผลหลังคลอดอาจทำให้อุ้มลูกไม่ถนัดมือ นัก)อย่าลืมกระซิบข้างๆหูลูกว่า ของขวัญชิ้นพิเศษนี้มอบให้ลูกเป็นคนช่วยดูแล และคุณคิดถึงลูกแค่ไหนตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาล
“ช่วยกันหน่อยนะ”
ไม่ ว่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับ “น้อง” ถ้าเป็นไปได้ขอโอกาสให้ลูกคนโตได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือน้องหน่อย เช่น ให้ลูกช่วยหยิบผ้าอ้อมให้ หรือส่งขวดนม ขวดน้ำของน้องให้ ถ้าอุ้มน้องอยู่ก็อาจอนุญาตให้ลูกมาอิงแอบอยู่ใกล้ๆ หรืออาจให้ลูกช่วยตัดสินใจเลือกสีเสื้อผ้าให้น้อง(วิธีการเหล่านี้นอกจาก ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างน้องกับพี่แล้ว ลูกคนโตยังได้ฝึกพัฒนาการในด้านการเป็นผู้นำ การรู้จักตัดสินใจ การรู้จักช่วยเหลือพี่น้องด้วย)
ทั้ง หมดทั้งมวลที่ขอมา ไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าคุณพ่อคุณแม่และคนรอบข้างจะช่วยกันดูแลรักษาความ รู้สึกของหัวใจดวงน้อยดวงนี้ ที่สำคัญการเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆมีชัยไปกว่าครึ่งแน่ๆค่ะ
tip
*ลอง หาตุ๊กตามาให้ลูก และลองให้แกดูแลตุ๊กตาเหมือนกับที่พ่อหรือแม่ดูแลน้อง เช่น อาบน้ำให้ตุ๊กตา เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ตุ๊กตา ป้อนข้าว แต่งตัวให้ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้ประสบการณ์เหล่านี้อีกวิธีหนึ่ง
*ถ้า ลูกทำท่าอยากรู้อยากเห็นและมีคำถามว่า “น้องมาจากไหน” คุณพ่อคุณแม่ควรให้ข้อมูลโดยประเมินจากการรับรู้ของลูกด้วยว่าแค่ไหนจะเข้า ใจ เพราะถ้าบอกอะไรมากเกินการรับรู้ของลูก แกอาจรู้สึกตกใจและกลัวก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก momypedia.com
เสริมความฉลาดของลูกผ่านการเล่น
Posted มิถุนายน 16, 2011
on:ยุคนี้ของเล่น มีวางขายเกลื่อนมากมาย ด้วยความเข้าใจที่ว่า ของเล่นมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะทางปัญญาและอารมณ์ของเด็ก แท้ที่จริงแล้ว นักวิชาการกล่าวว่า ต่อให้ของเล่นมีราคาแพง ดีแค่ไหน แต่ไม่มีพ่อแม่ได้ร่วมเล่นกับลูก ของเล่นไม่ตรงกับความสามารถ พัฒนาการตามช่วงวัย ก็เปล่าประโยชน์
ข้อแนะนำต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจถึงการเล่นที่เสริมสร้างความฉลาด สอดคล้องกับความสามารถ พัฒนาการช่วงวัยของลูกค่ะ
0 – 1 เดือน
ความสามารถ ลูก เรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ผ่านประสาทสัมผัสทุกด้านตั้งแต่แรกเกิด สามารถมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รู้รส และสัมผัสได้ตลอดเวลา การจัดสิ่งแวดล้อมจึงมีความสำคัญ ที่ช่วยให้ลูกซึมซับความรู้สึก พร้อมกับการเล่นที่หลากหลายและสร้างสรรค์โดยเฉพาะลูกน้อยช่วงแรกเกิดนั้น ของเล่นที่ดีที่สุดก็คือพ่อแม่ ที่ได้ใกล้ชิดดูแลเรื่องความเป็นอยู่ ได้เล่นกับลูก
ของเล่น
– เสียงพูดคุย ร้องเพลง ที่มีจังหวะ น้ำเสียงขึ้นๆ ลงๆ ก็เป็นเสียงชวนฟัง เรื่องสนุกของลูก
– เล่นปูไต่ การสัมผัส ใช้นิ้วมือของคุณแม่ไต่ไปตามแขน ขา ลำตัว นิ้วมือ นิ้วเท้า พร้อมกับสบตาพูดคุยไปด้วย
– ใช้ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หรือการทำท่าทางที่ตลกๆ ของคุณพ่อ ชวนให้ลูกยิ้มดูบ้างสิคะ
2 – 3 เดือน
ความสามารถ ลูกยกศีรษะจากที่นอนได้ชั่วขณะ (ประมาณ 45 องศา) ช่วงแขน ขา เอว เข่า แข็งแรงขึ้นมากของเล่น
– เลือกภาพที่น่าสนใจ เช่น ภาพใบหน้าพ่อ-แม่ หรือภาพดอกไม้ รูปทรงง่ายๆ ที่ตัดกับพื้นด้านหลังชัดเจน นำมาให้ลูกดู หรือทำเป็นโมบายแขวนไว้
– จับลูกนอนคว่ำกับที่นอน โดยคุณแม่อยู่ด้านตรงข้ามกับลูก ใช้ใบหน้า เสียงเรียกหรือท่าทาง ชวนลูกเล่น กระตุ้นให้ลูกพยายามผงกหัวขึ้นมามอง
4 – 5 เดือน
ความสามารถ ควบคุมศีรษะดีขึ้น อาจมีบ้างที่ศีรษะยังแหงนหงาย คอและหลังแข็งแรงขึ้นมาก ชอบเหลียวมองไปมา ชอบมองของเล่น และอยากจะคว้าของของเล่น
– อุ้มลูกส่องกระจก ให้ลูกมองตัวเองในกระจก พร้อมกับบอกชื่อลูกหรือชื่อคุณแม่
– ของใช้ เช่น ผ้าอ้อม ก็สามารถนำมาดัดแปลงเป็นของเล่นสนุก ให้ลูกสัมผัส หยิบจับ ขยำ กำ ได้ค่ะ
6 เดือน
ความสามารถ ลูกพยายามคืบ หยิบของเข้าปาก ชอบของเล่นสีสันสดใส มีเสียงของเล่น
– แก้วน้ำ ถ้วย ช้อน ที่มีน้ำหนักเบา อุปกรณ์เรื่องหม่ำของลูก ก็เป็นของเล่นที่ชวนเพลิดเพลินกับการหยิบจับกำ สิ่งของได้เป็นอย่างดี
– อวัยวะส่วนต่างๆ ของลูก ก็เป็นตัวเชื่อมโยงเรื่องเล่นค่ะ โดยให้ลูกสัมผัสกับอวัยวะ เช่น จมูก ปาก หูของตัวเอง แล้วคุณแม่คอยกำกับบอกชื่อขณะที่เล่น
7 – 8 เดือน
ความสามารถ กล้ามเนื้อมัดเล็กแข็งแรง ลูกสามารถหยิบของสลับข้างได้เก่ง นั่งได้ คลานได้ แต่อาจไม่คล่องแคล่วของเล่น
– หากล่องใบเล็กสักใบ พร้อมลูกบอลที่ลูกจับถนัดมือ โดยคุณแม่ก็หยิบลูกบอลเข้า-ออกให้ลูกดู ต่อจากนั้นก็ให้ลูกเป็นผู้เล่นดูบ้าง
– คุณแม่อาจให้ลูกลองบีบฟองน้ำ หรือตีน้ำป๋อมแป๋มให้ลูกดู มีเสียงประกอบเล็กน้อย ก็เป็นเรื่องสนุกช่วงเวลาอาบน้ำ
9 – 10 เดือน
ความสามารถ ลูกเริ่มเกาะยืน เคลื่อนไหวร่างกายคล่องขึ้นมากของเล่น
– ใช้กำแพงบ้านเป็นพื้นที่สนุก ให้ลูกหัดดันตัวเองจากพื้น เพื่อเกาะยืนขึ้น
– ให้คุณพ่อมีส่วนร่วมเรื่องเล่นของลูก ด้วยการเล่นโยกเยก ขี่ม้าส่งเมือง โดยมีคุณแม่ดูแลความปลอดภัย
11 – 12 เดือน
ความสามารถ ลูกเกาะยืน ลุกขึ้นนั่งลง คลานไปได้ทั่ว สนุกกับการเคลื่อนไหวร่างกาย (ไม่อยู่นิ่ง) ของเล่นจำพวกผลัก ดึง ให้เคลื่อนที่ได้จึงเป็น ของเล่นชวนสนุกของลูกวัยนี้
ของเล่น
– หากล่องใบเล็ก 2-3 ใบ ประดิษฐ์เป็นขบวนรถไฟ ให้ลูกสนุกกับการลาก ดึง ที่สำคัญ ขณะที่เล่นคุณแม่ควรพูดคุยถึงสิ่งที่ลูกเล่นไปด้วย เช่น ทำเสียงเลียนแบบรถไฟ (ปู๊น ปู๊น) เป็นต้น
บทความจาก sanook.com